เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว มีโอกาสได้รู้จักกับ “เจียวกู่หลาน” หรือภาษาไทยเรียกว่า “ปัญจขันธ์”เป็นครั้งแรก โดยทาง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ได้ตั้งสำนักงานส่งเสริมพัฒนาพืชสมุนไพร พืชธัญญาหารขึ้น และให้ดูแลสวนป่าสันกำแพง ซึ่งตั้งอยู่ในป่าสงวนขุนแม่ทา ต.แม่ทาเหนือ กิ่ง อ.แม่ออน จ .เชียงใหม่ โดย อ.อ.ป. มีนโยบายให้สวนป่าแห่งนี้เป็นฐานการศึกษาวิจัยเผยแพร่ในด้านสมุนไพร ภูมิปัญญาสมุนไพรท้องถิ่น การปลูกพืชแบบปลอดสารพิษ และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านสมุนไพรแก่บุคคลทั่วไป ฉะนั้นสวนป่าหลวงสันกำแพงจึงเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้สมุนไพรชนิดต่าง ๆ มาปลูกไว้มากมาย มีทั้งสวนสมุนไพรแปลงวิจัยสมุนไพร แปลงทดลอง การปลูกสมุนไพรโรงแปรรูปสมุนไพรเบื้องต้น แปลงสาธิต การเกษตรพอเพียง แปลงปลูกพืชผักพื้นบ้าน อันมีเจียวกู่หลานเป็นพืชที่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้ปลูกเพื่อวิจัยด้วย
เจียวกู่หลานชื่อภาษาอังกฤษคือ Miracle grass, Southern ginseng หรือ 5-Leaf ginseng ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่ามีสารที่มีฤทธิ์ในการเป็น สารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้นอนหลับลดระดับไขมันในเลือดเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น โดยปัญจขันธ์เป็นพืชล้มลุกชนิดเถา เลื้อยขนานกับพื้นดิน รากงอกออกจากข้อเป็นประเภทแตง น้ำเต้า มีใบ 3-5 ใบ ด้านบนและด้านล่างใบมีขนอ่อนสีขาวปกคลุมส่วนที่นำมาใช้คือส่วนเหนือดินของพืชที่มีอายุ 4-5 เดือนขึ้นไป
ตอนนี้ปัญจขันธ์แพร่หลายมากขึ้น (ไม่ได้บอกว่า อ.อ.ป. เป็นหน่วยงานแรกที่นำปัญจขันธ์มาวิจัยนะครับ มีหน่วยงานอื่นนำปัญจขันธ์ไปวิจัยก่อนแล้ว) มีหลายหน่วยงานนำพืชชนิดนี้ไปวิจัยมากขึ้น คนที่นิยมสมุนไพรก็รู้จักสมุนไพรชนิดนี้กันมาก มีการนำปัญจขันธ์มาทำเป็นผลิตภัณฑ์กันหลากหลาย เช่น ชาปัญจขันธ์ ปัญจขันธ์แคปซูลหรือบางทีก็นำเอาสารสกัดจากปัญจขันธ์นี้ไปผสมกาแฟก็มี มีคนบอกว่า ปัญจขันธ์เป็นสมุนไพรอมตะ บางคนว่าเป็นยาอายุวัฒนะก็มี แสดงว่ามีสรรพคุณดีแน่นอน ฉะนั้น ปัญจขันธ์จึงได้รับการประกาศยกย่องให้เป็นพืชสมุนไพรแห่งชาติปี 2548
มีผู้คนบอกว่า...ปัญจขันธ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้นอนหลับ ช่วยคลายเครียด ช่วยป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง ซ่อมแซม DNA ที่ถูกทำลายจากสารพิษ บุหรี่ แอลกอฮอล์ รักษาสมดุลของฮอร์โมนและเอนไซม์ ช่วยปกป้องหัวใจและระบบไหลเวียนของโลหิต ช่วยรักษาความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิวพรรณ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายและทางเพศ ปัญจขันธ์มี สารยิเพ็นโนไซด์ (Gypenosides) ที่พบในโสมแต่ในปัญจขันธ์มีมากกว่าโสม 3-4 เท่า เป็นสารที่ช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเซลล์ ยับยั้งเซลล์มะเร็งต้านการอักเสบ ยับยั้งการก่อตัวของเกล็ดเลือด ช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ลด LDL (ไขมันเสีย) เพิ่ม HDL (ไขมันดี ) ช่วยเพิ่มขบวนการเผาผลาญ แก้ปวด แก้ไอ ขับเสมหะ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถแก้ปวด-บวม ฟกช้ำดำเขียว ทำให้ผิวหนังเต่งตึง แก้ท้องผูก ลำไส้อักเสบ โรคตับ เชื้อราที่เท้า ผมหงอก ผมร่วง ปวดหัว ไมเกรน ความจำเสื่อม คางทูม ทอนซิล หวัด ขับเสมหะ แก้ไอ หอบหืด ลดกรด….เห็นไหมมีสรรพคุณที่ครอบคลุมและครอบจักรวาลดี
แต่ข้อมูลจากจดหมายข่าวผลิใบของกรมวิชาการเกษตร คอลัมน์ขอคุยด้วยคนโดย “มธุรส วงษ์ครุฑ” เขียนถึงการดื่มชาปัญจขันธ์ไว้ว่าห้ามดื่มติดต่อกันนานเกิน 7 วัน โดยเมื่อดื่มครบ 7 วันก็ให้หยุดดื่ม 1-2 วัน แล้วค่อยเริ่มต้นดื่มใหม่หรือถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น มึนงง ปวดศีรษะ ตาพร่าลายก็ต้องหยุดดื่มเช่นกัน...อันนี้เป็นสิ่งที่ควรทำตามนะครับ
ปัญจขันธ์ หรือเจียวกู่หลาน ปัจจุบันมีจำหน่ายตามร้านสมุนไพรทั่วไป หาซื้อได้ง่ายสะดวกสบายไม่ต้องเดินทางเสาะแสวงหาเฉกเช่นแต่ก่อนเก่าดังที่เล่ามา.
เธียรพัฒน์ ศรชัย
จาก
เจียวกู่หลานชื่อภาษาอังกฤษคือ Miracle grass, Southern ginseng หรือ 5-Leaf ginseng ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่ามีสารที่มีฤทธิ์ในการเป็น สารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้นอนหลับลดระดับไขมันในเลือดเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น โดยปัญจขันธ์เป็นพืชล้มลุกชนิดเถา เลื้อยขนานกับพื้นดิน รากงอกออกจากข้อเป็นประเภทแตง น้ำเต้า มีใบ 3-5 ใบ ด้านบนและด้านล่างใบมีขนอ่อนสีขาวปกคลุมส่วนที่นำมาใช้คือส่วนเหนือดินของพืชที่มีอายุ 4-5 เดือนขึ้นไป
ตอนนี้ปัญจขันธ์แพร่หลายมากขึ้น (ไม่ได้บอกว่า อ.อ.ป. เป็นหน่วยงานแรกที่นำปัญจขันธ์มาวิจัยนะครับ มีหน่วยงานอื่นนำปัญจขันธ์ไปวิจัยก่อนแล้ว) มีหลายหน่วยงานนำพืชชนิดนี้ไปวิจัยมากขึ้น คนที่นิยมสมุนไพรก็รู้จักสมุนไพรชนิดนี้กันมาก มีการนำปัญจขันธ์มาทำเป็นผลิตภัณฑ์กันหลากหลาย เช่น ชาปัญจขันธ์ ปัญจขันธ์แคปซูลหรือบางทีก็นำเอาสารสกัดจากปัญจขันธ์นี้ไปผสมกาแฟก็มี มีคนบอกว่า ปัญจขันธ์เป็นสมุนไพรอมตะ บางคนว่าเป็นยาอายุวัฒนะก็มี แสดงว่ามีสรรพคุณดีแน่นอน ฉะนั้น ปัญจขันธ์จึงได้รับการประกาศยกย่องให้เป็นพืชสมุนไพรแห่งชาติปี 2548
มีผู้คนบอกว่า...ปัญจขันธ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้นอนหลับ ช่วยคลายเครียด ช่วยป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง ซ่อมแซม DNA ที่ถูกทำลายจากสารพิษ บุหรี่ แอลกอฮอล์ รักษาสมดุลของฮอร์โมนและเอนไซม์ ช่วยปกป้องหัวใจและระบบไหลเวียนของโลหิต ช่วยรักษาความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิวพรรณ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายและทางเพศ ปัญจขันธ์มี สารยิเพ็นโนไซด์ (Gypenosides) ที่พบในโสมแต่ในปัญจขันธ์มีมากกว่าโสม 3-4 เท่า เป็นสารที่ช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเซลล์ ยับยั้งเซลล์มะเร็งต้านการอักเสบ ยับยั้งการก่อตัวของเกล็ดเลือด ช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ลด LDL (ไขมันเสีย) เพิ่ม HDL (ไขมันดี ) ช่วยเพิ่มขบวนการเผาผลาญ แก้ปวด แก้ไอ ขับเสมหะ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถแก้ปวด-บวม ฟกช้ำดำเขียว ทำให้ผิวหนังเต่งตึง แก้ท้องผูก ลำไส้อักเสบ โรคตับ เชื้อราที่เท้า ผมหงอก ผมร่วง ปวดหัว ไมเกรน ความจำเสื่อม คางทูม ทอนซิล หวัด ขับเสมหะ แก้ไอ หอบหืด ลดกรด….เห็นไหมมีสรรพคุณที่ครอบคลุมและครอบจักรวาลดี
แต่ข้อมูลจากจดหมายข่าวผลิใบของกรมวิชาการเกษตร คอลัมน์ขอคุยด้วยคนโดย “มธุรส วงษ์ครุฑ” เขียนถึงการดื่มชาปัญจขันธ์ไว้ว่าห้ามดื่มติดต่อกันนานเกิน 7 วัน โดยเมื่อดื่มครบ 7 วันก็ให้หยุดดื่ม 1-2 วัน แล้วค่อยเริ่มต้นดื่มใหม่หรือถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น มึนงง ปวดศีรษะ ตาพร่าลายก็ต้องหยุดดื่มเช่นกัน...อันนี้เป็นสิ่งที่ควรทำตามนะครับ
ปัญจขันธ์ หรือเจียวกู่หลาน ปัจจุบันมีจำหน่ายตามร้านสมุนไพรทั่วไป หาซื้อได้ง่ายสะดวกสบายไม่ต้องเดินทางเสาะแสวงหาเฉกเช่นแต่ก่อนเก่าดังที่เล่ามา.
เธียรพัฒน์ ศรชัย
จาก
www.dailynews.co.th 9 Jan.2013
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น